เมียนาซี (The NAZI Officer's WIFE) Edith Hahn Beer with Susan Dworkin เขียน เก่งการ แปล***สินค้าหมด***

เมียนาซี

"เรื่องราวการเอาชีวิตรอดที่แสนสวยงาม เป็นดั่งแรงบันดาลใจในการเอาชนะความหวาดกลัว"

อีดิธ ฮาห์น เป็นหญิงสาวจากเวียนนาที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา ซึ่งถูกเกสตาโปบังคับให้ต้องเข้าไปอยู่ในเกตโตหรือสลัมยิวในตอนนั้น

และย้ายไปยังค่ายแรงงานในเวลาต่อมา เมื่อได้กลับมาที่บ้านของตัวเองอีกครั้ง หลายเดือนหลังจากนั้น เธอรู้ดีว่าจะต้องกลายเป็นบุคคล

ที่ทหารเยอรมันตามล่า และจะต้องหลบซ่อนอยู่ใต้ดิน แต่ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนชาวคริสต์ เธอจึงได้ออกมาปรากฏตัวอีกครั้งที่

มิวนิค ในชื่อเกรเธ เด็นเนอร์ ณ ที่แห่งนั้นเธอได้พบกับ เวอร์เนอร์ เว็ตเตอร์ หนึ่งในสมาชิกพรรคนาซี ซึ่งตกหลุมรักเธออย่างหมดหัวใจ

ทั้งที่เธอพยายามปฏิเสธคัดค้านต่าง ๆ นานา จนในที่สุดอีดิธถึงกับต้องเปิดเผยความลักับเขาว่าเธอเป็นยิว แต่เวอร์เนอร์ก็ยังคงยืนกราน

และได้แต่งงานกับเธอในที่สุด ตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้นถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับสุดยอด 

เรื่องราวหักมุมต่าง ๆ เกิดขึ้นในหลาย ๆ ตอน เมื่ออีดิธนึกถึงความจริงในชีวิตของเธอที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ และความหวาดกลัวจับจิต

ที่ทำให้แทบไม่กล้าขยับตัว เธอบอกเล่าเรื่องราวที่ถูกเจ้าหน้าที่ของทางการเยอรมันสอบสวนเรื่องเชื้อสายเทือกเถาเหล่ากอของพ่อแม่เธอ

หรือเธอคิดอะไรตอนที่บอกปัดไม่ยอมใช้ยาระงับปวดใด ๆ ทั้งสิ้นในการคลอดลูก เพียงเพราะกลัวว่าฤทธิ์ของยาที่ทำให้สติมึนชา จะทำให้

เธอพลั้งปากเปิดเผยความลับเกี่ยวกับอดีตของตัวเองออกมา และเธอรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลาหลังจากที่สามีถูกกองทหารโซเวียตจับตัวไป

้บ้านถูกระเบิดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปซ่อนอยู่ตามซอกตึก ในขณะที่ีพวกทหารรัสเซียเมาไม่ได้สติกำลังออกล่าข่มขืนผู้หญิงอยู่กลาง

ถนน นอกจากหนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงความยากลำบากและการเสี่่ยงชีวิตของผู้เขียนแล้ว อีดิธยังสามารถรวบรวมและบันทึกเรื่องราวในการ

เอาชีวิตรอดของตัวเองไว้ได้อย่างน่าประหลาดใจ เธอเก็บรักษาเอกสารและกระดาษทุกแผ่นที่ทางราชการออกให้ เช่นเดียวกับภาพถ่าย

ของค่ายแรงงานที่เธอจัดการหามาได้ ปัจจุบันนี้เอกสารบางส่วนได้ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีในพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์แห่งการทำลายล้าง ณ

กรุงวอชิงตัน ดีซี บางส่วนจากเอกสารทางประวัติศาสตร์นับร้อยนั้นถูกหยิบยกมาไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย พร้อมกับโครงสร้างรูปแบบการ

เขียนอันน่าติดตาม ที่จับเอาเรื่องราวต่าง ๆ ของการทำลายล้างในประวัติศาสตร์ ความสับสนวุ่นวาย ปัญหา และการได้รับชัยชนะในท้ายที่

สุด มาสอดแทรกไว้ในแต่ละบทได้อย่างน่าสนใจ