จินตนาการไม่รู้จบ (Die Unendliche Geschichte) พิมพ์ครั้งที่ 8 มิชาเอ็ล เอ็นเต้ เขียน รัตนา รัตนดิลกชัย แปล

จินตนาการไม่รู้จบ

...เราอาจเรียกงานชิ้นนี้ว่า "ผลงานอันยอดเยี่ยมแห่งจินตนาการและความฝัน" แต่ในขณะเดียวกัน เราก็อย่าลืมว่าเส้นแบ่งระหว่าง

ความฝันและความจริงนั้นบางอย่างยิ่ง หรืออาจไม่มีอยู่เลยด้วยซ้ำ เนิ่นนานมาแล้วที่มนุษย์ได้หลงลืมศาสตร์อันเก่าแก่ที่เรียกว่า

จินตนาการและความฝันนี้ เราได้ถูกสอนให้คิดอย่างมีเหตุผลมานานเกินไป จนกลายเป็นคนที่แข็งกระด้างและรู้จักแต่วัตถุเท่านั้น

เราถูกสอนให้ใช้สมองยิ่งกว่าที่จะใช้หัวใจ ถูกสอนให้คิดยิ่งกว่ารู้สึก จนกระทั่งเราได้สูญเสียความละเอียดอ่อนที่จะมองเห็นถึงสิ่ง

ทั้งปวงอันเป็นนามธรรม และด้วยเหตุที่ว่า สัจจะแห่งดวงวิญญาณนั้นดำรงอยู่ในอาณาจักรแห่งนามธรรมเท่านั้น สิ่งนี้จึงดูเหมือน

จินตนาการและความฝันสำหรับเรา แต่เราอาจลืมที่จะฉุกคิดไปว่า โลกแห่งความเป็นจริงที่เรามีชีวิตอยู่นี้อาจเป็นเพียงแค่ "Dream of

the Devine" เท่านั้น เราเป็นเพียงความฝัน และชีวิตจริงของเรานั้นเป็นเพียงความฝันอีกมิติหนึ่ง ในขณะที่ตัวตนที่แท้จริงของเรา

นั้นอาจดำรงอยู่ในจินตนาการและความฝัน จากจุดยืนของชีวิตจริงนี้ เมื่อศาสตร์อันเก่าแก่เกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์ได้ตกต่ำ

เสื่อมโทรมลงด้วยอารยธรรมแผนใหม่และเทคโนโลยี ความรู้เดิมที่หลงเหลือร่องรอยอยู่จึงเป็นเพียงสัญชาตญาณอันลี้ลับที่บ่งบอก

รหัสลับผ่านจินตนาการและความฝันเท่านั้น